ในการตรวจสุขภาพประจำปีมักจะมีแผนการที่เปลี่ยนแปลงไปตามอายุ เนื่องจากความเสี่ยงในการเกิดโรคบางอย่างอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงเมื่ออายุมากขึ้น และนี่คือแนวทางทั่วไปสำหรับการตรวจสุขภาพในช่วงต่างๆ ของชีวิต แต่โปรดจำไว้ว่าความต้องการของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป เด็กและวัยรุ่น (อายุ 2-18 ปี) วัยหนุ่มสาว (อายุ 19-29 ปี) วัยผู้ใหญ่ (อายุ 30-49 ปี) ผู้สูงอายุ (อายุ 50 ปีขึ้นไป) ทั้งหมดนี่เป็นเพียงแนวทางทั่วไปสำหรับการตรวจสุขภาพประจำปีเท่านั้น ความถี่ของการตรวจเหล่านี้และอายุที่คุณควรเริ่มตรวจอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประวัติสุขภาพส่วนบุคคล ประวัติสุขภาพครอบครัว ไลฟ์สไตล์ของคุณ และอื่นๆ ปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณเสมอสำหรับข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดที่เกี่ยวข้องกับคุณ

โรคภูมิแพ้ คือความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันโรคที่ร่างกายจะมีปฏิกิริยาไวต่อสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ เช่น อาการคัน อาการจาม อาการบวม ตามอวัยวะที่เกิดอาการแพ้ โรคภูมิแพ้มักไม่ค่อยมีอาการรุนแรงแต่จะกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมากมายเลย ลักษณะของอาการโรคภูมิแพ้แต่ละคนก็จะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันออกไปอย่าง เกิดผื่นที่ผิวหนัง เช่น ผื่นแพ้ ลมพิษ คันตามผิวหนัง คัดจมูก น้ำมูกไหล จามบ่อย หากใจลำบาก แน่นหน้าอก เคืองตาและตาแดง บวมบริเวณรอบปากน้ำมูกไหลลงคอและหูอื้อ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเป็นอาการของคนที่เป็นภูมิแพ้ดังนั้นเราควรที่จะต้องสังเกตตัวเองให้มากๆด้วยจะยิ่งดีเพราะถ้าหากเรายิ่งสังเกตตัวเองได้มากเท่าไหร่แล้วจะยิ่งทำให้เราได้กินยาได้ถูกอาการมากขึ้นด้วย สาเหตุการเกิดโรคภูมิแพ้ก็มีอยู่หลายสาเหตุด้วยกันไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ถ้าคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นภูมิแพ้ได้เหมือนกัน สิ่งแวดล้อมก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภูมิแพ้อย่างมากเลยเพราะฝุ่นจะทำให้เรานั้นเป็นภูมิแพ้ได้มากกว่าปกติด้วย ภูมิแพ้จะมีด้วยกันหลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ที่ระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ที่ผิวหนัง ภูมิแพ้อาหาร และ ภูมิแพ้ที่เกิดผสมกันในหลายระบบของร่างกาย ซึ่งแต่ละอย่างจะมีอาการดังนี้ภูมิแพ้ที่ระบบทางเดินหายใจ หรือเรียกว่า โรคภูมิแพ้อากาศ เกี่ยวข้องกับจมูก อวัยวะหนึ่งของระบบทางเดินหายใจ เกิดจากการตอบสนองทางกลิ่น หรือ อากาศที่หายใจเช่น เกสรดอกไม้…

ในปัจจุบันนี้เรื่องของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นก็เป็นเรื่องที่หลายๆคนก็อาจจะยังไม่รู้และไม่เข้าใจด้วยว่ามีโรคอะไรที่เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บ้าง ซึ่งโรคนี้จะมีการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้อโรค โรคที่สำคัญเกี่ยวกับโรคนี้ คือ ซิฟิลิส หนองใน เริม เอชไอวีและเอชพีวี นอกจากนี้ก็ยังมีตกขาวผิดปกติ ไวรัสตับอักเสบบี หูดหงอนไก่ ติดเชื้อราในช่องคลอด ทุกอย่างนี้ก็จะเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่เราเองก็ควรที่จะต้องอย่ามองข้ามไปเลยเพราะถ้าหากเรามองข้ามไปแล้วนั้นก็จะยิ่งเกิดอันตรายขึ้นกับร่างกายของเราเองได้อีกเหมือนกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นจากการร่วมเพศ การมีเพศสัมพันธ์ เป็นการติดเชื้อโรคเช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียรวมถึง การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ปาก หรือ ทวารหนัก ซึ่งหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีเชื้อโรคสามารถถ่ายทอดไปยังผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กันได้ ซึ่งอาจจะติดได้ง่ายจากการร่วมเพศแบบไม่มีการป้องกันเพราะทางนี้จะทำให้ติดโรคไวมากขึ้นด้วย สาเหตุของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ก็จะมีการติดเชื้อไวรัสซึ่งได้แก่ไวรัส ไวรัสตับอักเสบบี เริม หูด และการติดเชื้อแบคทีเรียได้แก่ซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม ท่อปัสสาวะอักเสบ ช่องคลอดอักเสบและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการติดเชื้ออื่นๆ เช่น พยาธิ  กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคทางเพศสัมพันธ์นั้น คือกลุ่มที่มีกิจกรรมทางเพศบ่อยเช่นกลุ่มขายบริการ หรือมีเซ้กส์หมู่ที่ไม่ใส่ถุงยางป้องกัน อันนี้จะเสี่ยงอย่างมากที่จะทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเอชไอวีและเอชพีวี  โรคสองโรคนี้ถือว่าเป็นโรคที่ค่อนข้างร้ายแรงอย่างมากเลยสำหรับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องยิ่งให้ความสนใจในตรงนี้ควรที่จะต้องแนะนำคนที่มีความเสี่ยงเพื่อให้เค้าได้รู้จักที่จะป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นกับร่างกายได้ด้วย…

ในปัจจุบันนี้โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเลยที่เราเองก็ควรที่จะต้องยิ่งให้ความสนใจและใส่ใจให้มากๆด้วยจะยิ่งดีเพราะว่าในเรื่องของโรคทางเดินหายใจนั้นก็จะมีลักษณะต่างๆอย่างมากมายเลยหลายๆคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจหมายถึงอะไรและมีอะไรบ้างจะมาบอกด้านล่างให้เข้าใจกันดังนี้ โรคระบบทางเดินหายใจ หมายถึง โรคที่เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอวัยวะในระบบทางเดินหายใจได้แก่รูจมูก โพรงจมูก คอหอย หลอดลม ขั้วปอดและปอด ระบบทางเดินหายใจจะทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย และขับคาร์บอนไดออกไซต์ ออกจากร่างกาย  โรคที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินหายใจส่วนมากพบว่าสาเหตุคือ การติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย เชื้อราก็มีการติดเชื้อได้ง่ายกันอย่างยิ่งด้วยซึ่งโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจจะมีดังนี้ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดนก วัณโรค หลอดลมอักเสบ ปอดบวมซึ่งทุกๆอย่างนี้ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจกันทั้งหมดด้วย โรคระบบทางเดินหายใจนั้นจะมีอาการไอ มีเสมหะ จาม และมีไข้หวัด การหายใจลำบากหรือติดขัด แน่นหน้าอก หายใจได้สั้น ไม่สามารถหายใจยาวๆและลึกๆได้ เวลาหายใจ จะมีเสียงดัง มีอาการเจ็บและอักเสบในอวัยวะเช่น จมูกหรือหน้าอก ในการตรวจหาความผิดปกติของโรคระบบทางเดินหายใจนั้นแพทย์จะทำโดยการแอ็กซเรย์ปอดด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์และใช้สารกัมมันตรังสีดูความสัมพันธ์ระหว่างการหายใจกับเลือดที่ไปเลี้ยงปอดด้วย ทุกๆอย่างเป็นการวินิจฉัยเพื่อที่จะทำให้เราได้ทราบว่าเรากำลังเป็นอะไรและมีทางที่จะรักษาทางไหนได้บ้างเพราะว่ายิ่งเรารักษาได้ไวก็จะทำให้ร่างกายนั้นยิ่งแข็งแรงและหายไวขึ้นด้วย นอกจากนี้เราควรที่จะต้องสูดอากาศที่บริสุทธิ์ด้วยเพราะการที่เราสูดอากาศที่บริสุทธิ์นั้นจะช่วยทำให้เรานั้นได้รับก๊าซที่บริสุทธิ์เข้าสู่ปอดจึงทำให้เราหายใจสะดวกขึ้น ทุกๆอย่างในตอนนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเลยเพราะถ้าหากเรายิ่งให้ความสนใจกับร่างกายของตัวเองแล้วเราจะได้รับรู้ถึงความผิดปกติได้อย่างชัดเจน เรื่องของระบบทางเดินหายใจนั้นยิ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญอย่างมากดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องอย่ามองข้ามแล้วก็ให้ความสนใจมากๆด้วยจะยิ่งดีเพราะอย่างน้อยการที่เราไม่มีอะไรติดในเรื่องของสุขภาพนั้นจะดีอย่างยิ่งเพราะหากเราเป็นโรคเกี่ยวระบบทางเดินหายใจแล้วอาจจะต้องทานยาเยอะซึ่งก็จะทำให้เราต้องงดอาหารหรืองดอะไรบางอย่างได้เลย ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่ควรจะต้องดูแลตัวเองให้ดีจะได้ไม่เป็นโรคต่างๆที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจด้วย